ทบทวน บทเรียนที่ผ่านมา
1.ควรรู้พื้นฐานทั่วไปของกราฟทั่วไป เช่น Trend line, MACD, RSI, EMA, กราฟแท่งเทียน, Volume และ Spread
2.ให้ความสำคัญกับ Volume และ Spread เป็นหลัก
3.ดูกราฟ ต้องพิจารณาย้อนหลัง 200 วันทำการ หรือ 1 ปีปฎิทิน
4.ความหมายของ Float
5.ความหมายของ Spread
6.การเบรคราคาแต่ละระดับ
6.การเบรคราคาแต่ละระดับ
สรุปบทที่ 4
1.การเบรคของ Volume คือ พิจารณา Float200 หรือวันที่หุ้นมีจำนวน volume เล่นหากันมากที่สุดในช่วง 200 วันที่ผ่านมา
2.จำนวน Float และ Free Float ไม่จำเป็นต้องเท่ากัน Free Float คือจำนวนหุ้นที่รายย่อยสามารถซื้อถือได้ ส่วน Float ความหมายตามข้อ 1 ให้ focus ที่ Float200 เท่านั้น
3.ระดับการเบรคของ Float แปรผันตรงกันกำไรคาดหวังและช่วง Spread ดังนี้
2.จำนวน Float และ Free Float ไม่จำเป็นต้องเท่ากัน Free Float คือจำนวนหุ้นที่รายย่อยสามารถซื้อถือได้ ส่วน Float ความหมายตามข้อ 1 ให้ focus ที่ Float200 เท่านั้น
![]() |
ตัวอย่างการเบรคของ Float200 ในแต่ละครั้ง โดยจุด A เป็น Fail Signal เพราะเบรตแต่ราคา ไม่ได้เบรค Float ด้วย แต่จุด B เบรคทั้ง ราคา และ Float200 |
3.ระดับการเบรคของ Float แปรผันตรงกันกำไรคาดหวังและช่วง Spread ดังนี้
- 25% ของ Float200
- 50% ของ Float200
- 75% ของ Float200
- 100% ของ Float200
- 150% ของ Float200
4.ประสบการณ์การเข้าลงทุน
- Volume มา แต่ราคาเบรคน้อย เทรนเป็นขาขึ้น เบรคไม่แรงสามารถเข้าลงทุนได้ โดยราคาจะค่อยๆ ขัยบตามไป
- ราคาเบรค Spread ถ่างออกกว้าง แต่ Volume ไม่มา หรือ นิ่ง ให้ระมัดระวังอย่างหนัก
5.การเข้าลงทุน หุ้นต้อง เบรคทั้ง ราคา และ Volume
No comments:
Post a Comment